— greenupyo.com

Archive
รถยนต์

สวัสดีครับทุกท่านวันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องของธุรกิจเคลือบแก้วรถยนต์กันบ้างดีกว่าครับเพราะเนื่องจากว่า ณ ตอนนี้ธุรกิจเคลือบแก้วที่ว่านี้กำลังเป็นธุรกิจที่บูมและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในบ้านเราอีกทั้งตอนนี้ก็ยังมีคู่แข่งไม่มากเหมือนกับต่างประเทศดังนั้นผมจึงมองว่าเป็นธุรกิจที่น่าลงทุนที่สุดในขณะนี้

carcare-4
การลงทุนในธุรกิจเคลือบแก้วรถยนต์นั้นต้องบอกก่อนครับว่าโดยมากแล้วมักจะเป็นธุรกิจที่รวมอยู่กับธุรกิจคาร์แคร์ดังนั้นหากใครที่คิดจะทำธุรกิจเคลือบแก้วนี้ควรที่จะประกอบธุรกิจคาร์แคร์เป็นธุรกิจหลักและเพิ่มเอาตัวเคลือบแก้วเป็นธุรกิจเสริมเข้าไปเหมือนกับการเคลือบเงารถนั่นแหละครับเพียงแค่เปลี่ยนชนิดและประเภทของการเคลือบเท่านั้นเอง
และสำหรับใครที่คิดว่าธุรกิจคาร์แคร์นั้นเป็นสโคปที่ใหญ่เกินตัวของเราจนเกินไปด้วยอาจจะเป็นเพราะว่าหากทำธุรกิจคาร์แคร์ต้องใช้เงินสูงมากจนเกินไปดังนั้นจะทำเฉพาะธุรกิจรับเคลือบแก้วแต่เพียงอย่างเดียวได้หรือไม่ซึ่งผมเองก็ต้องตอบว่าได้เช่นกันครับไม่มีปัญหาเพราะหากเราทำแค่เฉพาะธุรกิจเคลือบแก้วอย่างเดียวเงินที่ใช้ในการลงทุนเปิดกิจการก็ไม่สูงมาก
ทีนี้มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้กันบ้างว่าถ้าหากเราตัดสินใจลงทุนในธุรกิจเคลือบแก้วกี่เดือนหรือกี่ปีถึงจะคืนทุนซึ่งโดยทั่วไปแล้วหากธุรกิจนี้มีลูกค้าอยู่เรื่อยๆ ตลอดเวลาแล้วล่ะก็อย่างเร็วสุดไม่เกิน 6 เดือนอย่างช้าสุดไม่เกิน 12 เดือนหรือ 1 ปีก็คืนทุนพร้อมกับมีกำไรเอาไว้ใช้ต่อยอดธุรกิจแล้วครับ

Read More

สวัสดีครับทุกท่านเมื่อพูดถึงเทคโนโลยีที่กำลังเป็นที่นิยมในด้านการขับขี่รถยนต์อยู่ในขณะนี้แล้วล่ะก็เห็นทีคงจะหนีไม่พ้นเรื่องราวของกล้องติดรถยนต์อย่างแน่นอนครับเพราะปัจจุบันนี้รถ 8 คัน ใน 10 คันที่วิ่งผ่านหน้าเราไปผมกล้ารับประกันเลยครับว่ารถเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีการติดตั้งกล้องติดรถยนต์เอาไว้ด้วยกันแทบทั้งสิ้น

carcamera-1
การติดกล้องติดรถยนต์นั้นหลายคนอาจจะมองแค่เพียงว่าเป็นกระแสแฟชั่นนิยมที่ไม่มีประโยชน์อะไรมากมายไปกว่าความเท่ห์หรือการติดเพื่อความโก้หรู แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นเจ้ากล้องติดรถยนต์นี่แหละครับมีประโยชน์ต่อผู้ขับขี่รถยนต์บนท้องถนนไม่น้อยเลยทีเดียวทั้งในเรื่องของการขับขี่และในเรื่องของความปลอดภัย
ปัจจุบันนี้การติดกล้องเพื่อการขับขี่ยานพาหนะนั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงรถยนต์แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นนะครับเพราะเนื่องจากว่ากล้องเหล่านี้มีประโยชน์นั่นเองจึงทำให้รถประเภทอื่นเช่นรถตุ๊กๆ รถสามล้อหรือแม้แต่กระทั่งรถมอเตอร์ไซค์ต่างก็หันมาดัดแปลงติดกล้องกับเขาด้วยครับ
ส่วนใครที่กำลังมีความคิดว่าอยากจะหากล้องติดรถยนต์มาติดให้กับรถยนต์ของตนเองบ้างแต่ก็กลัวว่าจะต้องเสียเงิน เสียทองมากมายก็คงต้องบอกว่าเป็นการที่คิดผิดอย่างแท้จริงเลยครับเพราะเนื่องจากว่ากล้องติดรถยนต์ปัจจุบันนี้มีมากมายหลายราคาด้วยกันตั้งแต่หลักร้อยยันหลักพันขึ้นอยู่กับคุณภาพและคุณสมบัติของมันซึ่งหากมีโอกาสผมเองก็จะได้ขยายความอธิบายถึงเรื่องนี้ให้ทุกท่านได้อ่านและได้รับรู้กันต่อไปครับ

Read More

ถ้าหากใครเป็นคอหนัง sci-fi อยู่แล้วคงจะต้องคุ้นเคยกับรถยนต์สุดไฮเทคเป็นแน่แท้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง I, Robot หรือ Total Recall (2012) เป็นต้น โดยรถยนต์ของแต่ละคนในแต่ละเรื่องนั้นดูเหมือนว่าไกลเกินจริง ยากที่จะสามารถทำได้ แต่วันนี้เทคโนโลยีต่างๆ ที่เรามีอยู่ในมือได้บ่งบอกได้ว่าอนาคตที่ดูเป็นไปไม่ได้… กำลังจะมาถึงแล้ว!

batery-01
รถยนต์ในยุคปัจจุบันไม่ได้มีเพียงชนิดเดียวอย่างที่เรารู้ แต่มีอยู่ด้วยกัน 3 แบบก็คือ 1. รถยนต์ใช้น้ำมันแบบปรกติทั่วไป 2. Hybrid (ลูกผสม) เป็นรถยนต์ที่มีการทำงานระหว่างน้ำมันและไฟฟ้า 3. Electric Car ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว
ปัจจุบันผู้คนเริ่มให้ความสนใจกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น เพราะมีการคาดการณ์ว่าน้ำมันจะหมดโลกในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า แต่ปัญหาเดียวของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าคือ วิ่งได้เพียงระยะทางสั้นๆ ไม่อาจจะวิ่งข้ามจังหวัดหรือวิ่งไปกลับที่ทำงานบ้านได้หลายๆ ครั้ง เพราะแบตเตอรี่รถยนต์ ที่เป็นตัวเก็บพลังงานยังคงบรรจุไฟฟ้าน้อยอยู่ เสมือนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ยิ่งมีฟังก์ชั่นมากเท่าไหร่ ใช้งานบ่อยเท่าไหร่ แบตเตอรี่ก็หมดไวเท่านั้น
แต่มนุษย์เราก็ไม่อยู่เฉย โดยวิศวะจากทางมหาวิทยาลัยโตเกียว ได้พัฒนาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถให้พลังงานได้มากกว่าแบตเตอรี่รถยนต์มากถึง 7 เท่า! และในขณะเดียวกัน ทางด้านฝั่งยุโรปเอง โดยทีมวิจัยจาก London Center for Nanotechnology หรือ LCN ก็พัฒนาให้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้านี้มีขนาดเล็กลงและสามารถชาร์จตัวเองได้ โดยขนาดเล็กที่ว่านี้จะมีความบางถึง 1 มิลลิเมตรเท่านั้น!
ถึงแม้ว่าโลกของเราตอนนี้จะร้อนขึ้นกว่าเดิมมากจนไม่อาจจะเยียวยาให้กลับมาเป็นเหมือนเก่าได้ ตาเราทุกคนก็สามารถช่วยกันดูแลให้สภาพอากาศของโลกเราดีขึ้นได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าทุกคน เพียงหากคุณไปที่ไหนใกล้ๆ ก็หันมาเดินเท้าหรือขี่จักรยานแทนการขับรถยนต์เป็นต้น เท่านี้โลกของเราก็จะน่าอยู่มากขึ้นแล้ว

Read More

zonda-052

เพื่อนๆ ที่ได้เคยมีโอกาสจับหุ่นยนต์อาซิโมตัวเป็นๆ ทั้งที่นำมาโชว์ในงาน BOI Fair ใช่หรือไม่ได้ดูการถ่ายทอดสดหรือว่าเทปพิมพ์ภาพที่เกี่ยวโยงกับเจ้าหุ่นยนต์อาซิโมนี้เคยอยากรู้กันบ้างไหมครับผมว่าในการนำเจ้าหุ่นอาซิโมออกมาโชว์ตัวในแต่ละครั้งทางฮอนด้าเองแทบจะอาจไม่เคยโฆษณารถยนต์หรือว่าของซื้อของขายของตนเลยราวกับว่าไมได้มีส่วนในการจัดสร้างเจ้าหุ่นเก่งตัวนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียวแล้วอย่างนี้ Honda จะอาจจะได้อะไรล่ะ

               จริงอยู่ขอรับกระผมที่ว่าการนำให้คำปรึกษาเจ้าหุ่นอาซิโมแต่ละครั้งแทบจะจะไม่มีการคุยถึงรถยนต์ฮอนด้าหรือผลิตภัณฑ์ของฮอนด้าเลยแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าฮอนด้าจะไม่ได้อะไรเลยนะขอรับเพราะว่าในเรื่องการท้องตลาดการสร้างแบบ Honda นี้มีผลประโยชน์แอบแฝงอย่างแน่นอนซึ่งฉันจะก็จะได้เล่าแจ้งแถลงไขให้ทุกคุณได้ทราบกันขอรับกระผม

               สิ่งแรกสุดที่ Honda ได้อย่างแน่นอนเลยก็คือเทคโนโลยีอันทันสมัยซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตหรือบงการเจ้าหุ่นฉลาดนี้ทางฮอนด้าเองมองแล้วว่าสามารถนำไปต่อยอดเพื่อที่จะใช้กับรถของตนในคราวหน้าได้จนกระทั่งการทุ่มทุนลงไปเพื่อวิจัยพร้อมด้วยดัดแปลงจึงเป็นการลงทุนที่ไม่เสียเปล่า

               สิ่งถัดมาก็เป็นแบรนด์ครับเนื่องจากเนื่องจากว่าคนบนโลกนี้ไม่ได้ขับขี่รถยนต์กันทุกคนจนกระทั่งคนที่ไม่ได้ชอบในเรื่องรถน่าจะจะน่าจะไม่เคยฟังหรือเปล่าคุ้นหูในนามแบรนด์ฮอนด้าแต่เมื่อได้มีการนำให้คำปรึกษาเจ้าหุ่นอาซิโมนี้ออกไปแม้คนที่ไม่ได้ขับขี่รถก็สามารถจำได้ได้ทันทีว่าหุ่นอาซิโมตัวนี้คือผลงานของ Honda ซึ่งการที่ Honda ทำเช่นว่านี้ภาษาทางการตลาดเขาเรียกว่า Brand Awareness ขอรับกระผม

Read More

ในตอนที่แล้วกระผมได้คุยถึงเรื่องของการวิจัยพร้อมกับดัดแปลงเทคโนโลยีใหม่ๆ ของ Honda ที่มีส่วนผลักดันให้ Honda ประสบความสำเร็จไปพร้อมกับทิ้งท้ายไว้ด้วยผลงานชิ้นโบว์แดงอันเป็นผลงานสุดภาคภูมิใจของบรรดาพนักงานฮอนด้าทุกคนซึ่งก็เป็น อาซิโมดังนั้นในวันนี้กระผมจะอาจจะมาต่อเรื่อง อาซิโมกันครับผม

               อาซิโม หรือไม่ ASIMO นั้นเป็นหุ่นยนต์สไตล์ฮิวแมนนอยด์หรือหุ่นยนต์ที่เลียนแบบผู้คนที่ทางฮอนด้าและฝ่ายวิจัยพัฒนาของบริษัทได้คิดค้นขึ้นไปมา โดยเจ้าหุ่น ASIMO นั้นได้รับการเปิดตัวต่อสายตาผู้คนนับล้านบนโลกคือครั้งแรกในปีพุทธศักราช 2543 จากนั้นจึงได้มีการอัพเดทพร้อมด้วยเปลี่ยนแปลงเจ้า ASIMO ให้มีความสามารถใหม่ๆ เพิ่มเติมขึ้นไปมาให้ใกล้เคียงกับประชาชนมากๆที่สุดอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งถึงทุกวันนี้

เพื่อจะนาม ASIMO นั้นหลายคนน่าจะจะอาจคิดว่าเป็นชื่อของนาย ไอแซค อสิมอฟ นักวิทยาศาสตร์ด้านหุ่นยนต์ชื่อดังของโลกโดยมีการตั้งชื่อสำหรับคือเกียรติแก่เขาผู้ซึ่งทรงคุณูปการต่อโลกแต่ท้ายที่สุดแล้วทาง Honda ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าคำว่า ASIMO ที่ใช้คือชื่อของหุ่นนั้นย่อมาจากคำว่า  Advanced Step in Innovative Mobility ซึ่งมีความหมายว่า นวัตกรรมแห่งการเคลื่อนที่อันล้ำสมัยมิได้มีความเกี่ยวกันกับนายอสิมอฟแต่อย่างใด

ปัจจุบันหุ่นยนต์อาซิโมนี้ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มของนักวิทยาศาสตร์แถบยุโรปพร้อมกับอเมริกาว่าเป็นหุ่นยนต์ที่มีศักยภาพใกล้เคียงกับมนุษย์มากมายที่สุดอีกทั้งยังจะน่าจะมีประโยชน์อันใหญ่หลวงต่อมนุษยชาติในอนาคตอันใกล้นี้อีกเช่นกัน

มาถึงบรรทัดนี้แล้วผมเชื่อว่าหลายคนยังจะน่าจะรู้จักกับเจ้าหุ่นยนต์เก่งตัวนี้ดีขึ้นไปกว่าเดิมแล้วอย่างแน่นอนดังนั้นในบทความตอนต่อไปเราจะน่าจะมาดูกันว่าฮอนด้าได้อะไรจากการสร้างหุ่นยนต์ ASIMO นี้ครับผม

Read More

Categories